pain-backache-old-senior-asian-grandfather-patient-uniform-suffer-from-body-problem-health-ideas-concept_609648-2293

การหกล้มในผู้สูงอายุ: สาเหตุ ความเสี่ยง และวิธีป้องกัน

การหกล้มในผู้สูงอายุ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเมื่อผู้สูงอายุล้ม อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรง เช่น กระดูกหัก หรือในบางกรณีอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายต่อชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุนหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว การป้องกันการหกล้มจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้พวกเขายังคงมีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัย

บริการต่างๆ ของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซิลเวอร์ เอซ เนอร์สซิ่งโฮม

สาเหตุของการหกล้มในผู้สูงอายุ

  1. กล้ามเนื้อและกระดูกอ่อนแรง ผู้สูงอายุมักประสบปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรงและการสลายตัวของมวลกระดูก ทำให้กระดูกเปราะและเสี่ยงต่อการหักได้ง่าย การทรงตัวของผู้สูงอายุจึงไม่มั่นคง ทำให้เสี่ยงต่อการหกล้มมากขึ้น
  2. ปัญหาการทรงตัว ปัญหาด้านระบบประสาทและการรับรู้สมดุลมักเสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุมีปัญหาในการทรงตัว เช่น เวียนศีรษะ หรือการเดินที่ไม่มั่นคง
  3. ปัญหาสายตา การมองเห็นที่ลดลง เช่น สายตาพร่ามัวหรือปัญหาการมองเห็นในที่แสงน้อย ส่งผลให้ผู้สูงอายุมองไม่เห็นสิ่งกีดขวางหรือพื้นผิวที่อาจทำให้สะดุดล้มได้
  4. การใช้ยาบางชนิด ยาบางชนิด เช่น ยาควบคุมความดันโลหิต ยาขยายหลอดเลือด หรือยาที่มีผลกระทบต่อระบบประสาท สามารถทำให้ผู้สูงอายุมีอาการง่วงซึม วิงเวียน หรือเสียการทรงตัว ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการหกล้ม
  5. สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม การจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่ไม่ปลอดภัย เช่น พื้นลื่น ไม่มีราวจับในห้องน้ำ หรือการวางสิ่งของกีดขวางเส้นทางเดิน ทำให้ผู้สูงอายุมีโอกาสหกล้มได้ง่ายขึ้น

ความเสี่ยงจากการหกล้ม

การหกล้มในผู้สูงอายุอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่รุนแรง เช่น:

  • กระดูกหัก: โดยเฉพาะกระดูกสะโพก กระดูกข้อมือ หรือกระดูกสันหลัง
  • เลือดออกในสมอง: หากศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรง อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกในสมอง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาการสับสนหรือเสียชีวิต
  • ความพิการถาวร: ผู้สูงอายุที่ได้รับบาดเจ็บจากการหกล้มอาจสูญเสียความสามารถในการดูแลตัวเอง ทำให้ต้องพึ่งพาผู้อื่นตลอดเวลา

นอกจากนี้ การหกล้มยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ ผู้สูงอายุที่เคยหกล้มมาก่อน อาจมีความหวาดกลัวว่าจะล้มอีก ซึ่งทำให้ไม่กล้าทำกิจกรรมต่างๆ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและทำให้เกิดความวิตกกังวล

วิธีป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

  1. ออกกำลังกายเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน โยคะ หรือไทเก๊ก ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและการทรงตัวของผู้สูงอายุให้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการหกล้ม
  2. ปรับสภาพแวดล้อมในบ้านให้ปลอดภัย
    • จัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบ ไม่วางสิ่งกีดขวางเส้นทางเดิน
    • ใช้แผ่นกันลื่นหรือพรมยางในห้องน้ำและพื้นทางเดิน
    • ติดตั้งราวจับบริเวณบันได ห้องน้ำ หรือบริเวณที่ต้องการพยุงตัว
    • ตรวจสอบความสว่างภายในบ้านให้เพียงพอ โดยเฉพาะบริเวณบันไดและห้องน้ำ
  3. เลือกรองเท้าที่เหมาะสม ผู้สูงอายุควรสวมรองเท้าที่มีพื้นรองเท้าหนาและไม่ลื่น ดอกยางที่พื้นรองเท้าช่วยเพิ่มความมั่นคงในการเดิน และควรเลือกรองเท้าที่พยุงข้อเท้าได้ดี
  4. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น การตรวจสายตา การตรวจประสาทรับรู้ และการตรวจประเมินภาวะกระดูกพรุน เพื่อลดความเสี่ยงจากการหกล้ม
  5. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลข้างเคียงต่อการทรงตัว หากผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้ยาที่ส่งผลกระทบต่อการทรงตัว เช่น ยาควบคุมความดัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีปรับเปลี่ยนยาหรือหาทางป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่เสี่ยงต่อการหกล้ม

สรุป

การหกล้มในผู้สูงอายุเป็นปัญหาที่ต้องได้รับความใส่ใจเป็นพิเศษ การป้องกันการหกล้มไม่เพียงแค่ช่วยลดการบาดเจ็บที่รุนแรง แต่ยังช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การออกกำลังกาย การปรับสภาพแวดล้อม และการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมเป็นวิธีที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เขียนบทความ: พญ.ศศิธร คุณูปการ

Comments are closed.